วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

“มะละกา” จุดเริ่มต้นของการเผยแพร่ศาสนาอิสลาม



เขียนโดย  สุพรรษา  ถวายเทียน



บรรยากาศ เมืองมะละกา


            มะละกา เป็นรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแหลมมลายู มีอาณาเขตทิศเหนือจดรัฐเนกรีเซมมิลัน ทิศตะวันออกจดรัฐยะโฮร์ ทิศใต้และทิศตะวันตกจดช่องแคบมะละกา ซึ่งถ้าหากจะกล่าวถึงมะละกา หลายๆ คนอาจจะนึกไปจุดศูนย์รวมแห่งการค้าที่ยิ่งใหญ่ในอดีตบริเวณคาบสมุทรมลายู แต่หากได้มองอีกมุมหนึ่ง นอกจากมะละกาจะเป็นจุดศูนย์รวมทางการค้าที่เคยรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่งในอดีตแล้ว มะละกาแห่งนี้ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอารยธรรมของศาสนาอิสลาม เป็นจุดศูนย์รวมของศาสนาอิสลามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่ศาสนาอิสลามไปสู่พื้นที่ต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

            ในระยะแรกที่ศาสนาอิสลามเข้ามาในมะละกา ยังคงปรากฏธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮินดู-พุทธ ความเชื่อดั้งเดิมหรืออาดัต (adat) และการนับถือเจ้าถือผี   ศาสนาอิสลามที่เข้ามาในระยะแรกนั้นเป็นนิกายซูฟีที่มีความเชื่อในเรื่องญาณและสิ่งลี้ลับ การเปลี่ยนมารับอิสลามของผู้คนในบริเวณหมู่เกาะเป็นผลมาจากการปฏิวัติภายใน  กล่าวคือ ความไม่พอใจต่อระบบสังคมแบบฮินดูที่มีการแบ่งแยกชนชั้นเป็นปัจจัยผลักดันให้ผู้คนหันไปรับอิสลามที่เน้นย้ำความเท่าเทียมกันได้ง่ายขึ้น   ศาสนาอิสลามเอื้ออำนวยต่อระบบเศรษฐกิจแบบพ่อค้าได้ดีกว่าศาสนาฮินดู-พุทธ  โดยไม่จำเป็นต้องมีพระหรือวัดในการประกอบพิธีทางศาสนาทุกคนสามารถปฏิบัติกิจทางศาสนาได้อย่างเท่าเทียมกัน

            ศาสนาอิสลามเข้ามายังอาณาจักรมะละกาพร้อมกับความรุ่งเรืองทางการค้า   ถึงแม้ว่าการขยายอิทธิพลทางดินแดนของมะละกาได้ยุติลง แต่ในขณะเดียวกันการแพร่ขยายของวัฒนธรรมะละกา-มลายู ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามได้แพร่ขยายเข้าสู่ดินแดนอื่นๆ ในคาบสมุทรมลายู  ซึ่งมูลเหตุของการเปลี่ยนแปลงจากศาสนาดั้งเดิมนั่นก็คือว่า ศาสนาอิสลามไร้ซึ่งคณะสงฆ์ ประชาชนไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของสังคม หากรับนับถือศาสนาอิสลามแล้วก็ย่อมที่จะมีความเท่าเทียมกัน ใช่ว่าจะมีการแบ่งแยกระหว่างชนชั้นปกครอง ขุนนาง นักบวช และประชาชน ผู้คนในสังคมถูกรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันภายใต้หลักคำสอนของอิสลาม ด้วยเหตุที่ว่าการเผยแพร่ศาสนาเป็นหน้าที่ของผู้คนทุกคนในสังคม ศาสนาอิสลามก็ได้เริ่มซึมซับเข้าสู่ผู้คนในสังคมนั้นๆ ซึ่งต่างออกไปจากศาสนาดั้งเดิมที่หน้าที่ของการเผยแพร่ศาสนาจำกัดอยู่ที่นักบวชเท่านั้น

            อย่างไรก็ตาม มะละกาต้องเผชิญอยู่กับภาวะสงครามโดยศัตรูจากแดนอื่น นั่นก็คือโปรตุเกส ที่ยกกองทัพเรือเข้ามาปิดล้อมร่วมเดือน ก่อนที่โปรตุเกสจะตีมะละกาแตก และสร้างอำนาจการปกครองเหนือมะละกา ถือเป็นจุดจบแห่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของมะละกา อย่างไรก็ตามแม้นไม่มีอาณาจักรมะละกาแล้ว แต่การเผยแพร่ศาสนาอิสลามยังคงอยู่ แม้จะต้องเผชิญอยู่กับศาสนาใหม่ของอาณานิคมที่มีอิทธิพลอยู่เหนือบริเวณเหล่านี้เป็นระยะเวลาหลายร้อยปี แต่ศาสนาของอาณานิคมเหล่านั้นไม่สามารถที่จะพิชิตใจผู้คนในคาบสมุทรมลายูได้  ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า  การนับถือศาสนาอิสลามของชาวมลายูมิได้มีการนับถือเพียงเพื่อผลประโยชน์ในด้านการค้า หรือนับถือเพียงเพราะผู้ปกครองหันไปนับถือศาสนาอิสลาม  แต่การนับถือศาสนาอิสลามของชาวมลายูเกิดขึ้นมาด้วยแรงศรัทธาที่อยู่ภายในหัวใจจริงๆ และแม้นจะมีอะไรมาขัดขวาง ความศรัทธาเหล่านั้นก็มิสามารถเลือนหายไปจากหัวใจของชาวมลายูได้


     Website :




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น