วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อีหม่ามหนุ่มหรือผู้นำหนุ่ม (Imam muda)


เขียนโดย : นิตยา บารอสิดิก  






ปัจจุบันในมาเลเซียคึกคักกับการแสวงหาผู้นำมุสลิมชาย และพยายามที่จะชักชวนความสนใจจากหนุ่มๆ เพื่อที่จะนำความรู้จากการศึกษามาเป็นประโยชน์ และได้จัดตั้งรายการทีวี ออสโตร โอเอซิส      (Astro Oasis) ขึ้นมาเพื่อ ผู้ชายที่จะเป็นอีหม่ามได้จะต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เป็นผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 19-27 ปี ไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงานอีกก็ตาม ผู้ที่จะเป็นผู้นำได้จะต้องผ่านการคัดเลือกและจะต้องมีประสบการณ์มาก่อน และต้องเป็นคนที่มีความรู้ทางศาสนาอิสลามเป็นอย่างยิ่งถือได้ว่าเป็นคนที่เคร่งศาสนาไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน เขาต้องปรากฎให้ผู้อื่นได้รับรู้หรือเรียกว่าการเผยแพร่ที่หัวใจของเขาอธิฐานสัญญาต่อพระเจ้า เป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ

ในขณะที่ประเทศตะวันตกได้มีรายการแสดงความสามารถตามที่ต้องการเพื่อคัดเลือกดาว แต่ในมาเลเซียก็ได้มีรายการแสดงเช่นเดียวกันเพื่อเลือก “ดาวอีหม่าม” จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจของคนประเทศอื่นๆ การแข่งขันของประเทศอื่นๆ มักจะแสดงทักษะความสามารถในร้องเพลงหรือเต้นรำ ในทางกลับกันการแสดงอีหม่ามหนุ่มจะแสดงทักษะความสามารถด้วยการอ่านคัมภีร์อัลกรุอาน  การอบรมวิธีฝังศพและปฏิญาณตนว่าจะป้องกันคนหนุ่มสาวชาวมาเลเซียจากเพศสัมพันธ์ (นอกสมรส)

อีหม่ามหนุ่มหรือผู้นำหนุ่มจัดขึ้นโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซีรี จามิน คีร   บาฮารูม (Datuk Seri Jamil Khir Baharom)  เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 2010 แห่งประเทศมาเลเซีย และโครงการนี้ได้ก่อตั้งขึ้นมาแล้ว 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2010 เป้าหมายที่มีการจัดโครงการนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะให้ชายหนุ่มวัยรุ่นหันมามองศาสนาของตน ปฏิบัติตามศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่เว้นแต่เฉพาะหนุ่มวัยรุ่นแต่จะรวมไปถึงเยาวชน  ผู้ที่จะเป็นผู้นำหรืออีหม่ามหนุ่มจะต้องเข้าใจในเรื่องศาสนาอิสลามและต้องมีความสามารถและเคร่งครัดที่จะเป็นผู้นำ           ในช่วงที่คัดเลือกสิบคนสุดท้ายจะมีการเข้าร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่เป็นโรค เผยแพร่ศาสนา อ่านคุตบะห์หรือกล่าวคำบรรยายที่เกี่ยวกับศาสนาที่มัสยิดต่างๆ อาบน้ำพิธีศพจนกระทั่งฝังศพ แม้แต่ผู้ตายเป็นเอดส์ก็ตาม ซึ่งเนื่องจากผู้ที่ตายเป็นเอดส์ผู้คนมักจะไม่เต็มใจที่จะสัมผัสศพ และชักชวนเยาวชนให้ห่างจากเพศและยาเสพติด และให้คำปรึกษากับผู้ที่จะแต่งงานตามพิธีทางศาสนา และอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม การเข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันจะใช้เวลาเพียงแค่สามเดือน เมื่อโครงการนี้เนื่องจากเป็นที่นิยมของชาวมุสลิมซึ่งจะแพร่ทั่วเอเชีย โดยออกรายการผ่านทางช่องทีวี ออสโตร โอเอซิส ซึ่งเป็นรายการช่องทางศาสนา กำหนดการของการแข่งขันที่จะเป็นผู้ชนะของอีหม่ามหนุ่มคือ ต้องท่องจำอัลกรุอาน และต้องรู้เกี่ยวกับบทบัญญัติของอิสลาม และกล่าวอธิบายทัศนะซุนนีย์ซึ่งหมายถึงคำพูด การกระทำ และการยอมรับของท่านศาสดานบีมุฮัมมัด อย่างลึกซึ้งและเข้าใจ อีกทั้งผู้ที่เข้ารอบในการแข่งขัน 10 คนสุดท้ายจากที่ 1,000 คน พวกเขาต้องเผชิญกับการใช้เวลาฝึกฝนการเขียนและอ่านคำสอนของศาสนาและปฏิบัติในศาสนา และพวกเขาจะถูกแยกออกอย่างโดดเดี่ยว โดยอยู่ในห้องหนึ่งของมัสยิด  จากนั้นก็ประชันกันในการอ่านพระคัมภีร์อัลกุรอาน   และห้ามจากการใช้โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์        เพื่อต้องการให้พวกเขาได้ใช้ความคิดของตนเองโดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือหรือการชี้นำจากภายนอก        เมื่อการคัดเลือกผู้ที่เข้ารอบสองคนสุดท้ายจะได้ทดสอบในคัมภีร์กุรอานท่องนำเสนอพระธรรมเทศนา        กล่าวสวดทา​​งศาสนาอย่างไพเราะเป็นทำนอง และตอบคำถามจากผู้พิพากษาคนเดียวของโปรแกรมอดีต       อีหม่ามผู้อวุโสของมัสยิดแห่งชาติของมาเลเซีย ตามการที่กำหนดผู้ใดผู้หนึ่งที่สามารถตอบคำถามอย่างถูกต้องแม่นยำ และชัดเจนตามพระมหาคัมภีร์ผู้นั้นจะเป็นผู้ชนะเลิศ

 อีหม่ามหนุ่มที่ถูกคัดเลือกให้เป็นผู้นำกลายเป็นคนสำคัญซึ่งดึงดูดความสนใจจากคนในเอเซียและประเทศอื่นๆ เช่น ในสหรัฐฯ และอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มชาวมุสลิม อีกทั้งเป็นโครงการที่ถูกทำให้เกิดความน่าตื่นเต้นของผู้ชมและผู้ประกวดจากความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายของผู้นำในการทำให้อิสลามน่าสนใจมากขึ้น และเป็นที่ทำให้คนหนุ่มสาวให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามประเทศมาเลเซีย ซึ่งป็นประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ เช่นที่ สลังงอ    ยะโฮร์ ปีนัง เป็นต้น ในแถบนี้เป็นชาวมุสลิม ซึ่งจะมีเยาวชนมากพอสมควรและมีความเข้มแข็งเคร่งครัดทางศาสนาพอสมควร และการที่ได้ยกย่องให้มีผู้นำหนุ่มขึ้นมาก็เพื่อชักจูงคนรุ่นหลังๆ ให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น  เพื่อที่จะยึดหลักทางศาสนาและสอนรุ่นลูกๆ หลานๆ อีกอย่างเพื่อให้เป็นการเผยแพร่ศาสนาไปในทั่วโลก  การจัดตั้งโครงการนี้ได้เป็นที่ยกย่องของชาวมุสลิมในสหรัฐฯ และในอังกฤษ และที่อื่นๆ  
 มาเลเซียได้แสดงความคึกคักในความเป็นจริงกับการวางแผนโครงการในมุมมองของอิสลามที่เกิดขึ้น ซึ่งได้เล็งเห็นว่า "อีหม่ามหนุ่ม" จะต้องนำแสดงการผสมผสานของความเชื่ออย่างเป็นธรรมชาติเพื่อที่จะให้เข้าใจอย่างมากขึ้น   มาเลเซียเป็นประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้พยายามที่จะปกป้องประเพณีอิสลามในขณะที่โลกเกิดกระแสโลกาภิวัติและวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามา  ถึงแม้ว่าโลกจะมีการปรับเปลี่ยนและมีกระแสทางสื่อมวลชนเข้ามา แต่ในแนวมุมมองของมาเลเซียมีวิธีที่จะมีการชักจูงในแนวทางอิสลามโดยตั้งโครงการนี้ขึ้นมาด้วยความบันเทิงในแนวของอิสลาม การดำเนินของผู้จัดตั้งโครงการในประเทศมาเลเซียได้กล่าวว่าพวกเขาต้องการที่จะหาผู้นำชาวมุสลิมที่เคร่งศาสนา กับความก้าวหน้าที่สามารถพิสูจน์ศาสนาให้กับเยาวชนมาเลเซียแม้จะมีอิทธิพลของวัฒนธรรมก็ตาม

 ในศตวรรษที่ 21 ประเทศมาเลเซียได้ก่อตั้งโครงการมากมายเพื่อที่จะถ่ายทอดผ่านช่องทีวีอิสลามเพื่อเผยแพร่ศาสนาและดึงดูดความสนใจชักจูงความสามารถของเยาวชนมุสลิม ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม โครงการนี้เน้นการท่องสวดมนต์และเน้นการทดสอบเกี่ยวกับศาสนาอิสลามและถามคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันเช่นการตั้งชื่อผู้นำของโลก และตรวจสอบพื้นหลังที่กำลังทำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครมีอดีตผู้นำที่น่ารังเกียจหรือไม่น่าเชื่อถือ

อีหม่ามหนุ่มจะต้องมีทักษะในการพูดไม่ว่ากับมุสลิมหรือต่างศาสนิกก็ตาม เขาจะต้องมีการให้เกียรติและไม่แบ่งชนชั้น เขาจะต้องมีความเข้มแข็งและยึดหลักอิสลามเข้ามาพูดในทางอ้อมเพื่อเป็นการเผยแพร่ทางจิตใจ ที่เน้นๆก็คือการตั้งเจตนา ต้องใส่ใจกับความรู้ในเชิงลึกในความเชื่อของศาสนาอิสลามและความสามารถในการเป็นผู้นำ  และเป้าหมายในอิสลามคือไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะส่วนบุคคลของการแข่งขัน แต่เป็นชัยชนะของสังคมและเป็นชัยชนะของศาสนาอิสลามเองมันได้นำเยาวชนได้ใกล้ชิดกับศาสนา และอีกอย่างคือต้องการให้เป็น "หนุ่มสโมสรอิหม่าม" ตามที่กล่าวมานี้ ปัจจุบัน ประชาชาติอิสลาม จำเป็นมากกว่าในยุคใดๆที่ผ่านมา จะต้องทำให้เกิดความพร้อมของการเป็นผู้เรียกร้อง แผ่ขยายด้วยสิ่งที่พวกเขามีความต้องการ ได้แก่สื่อต่างๆ ความสามารถของการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา ภายใน ชุมชน สังคมอิสลาม ภายนอกเป็นการเฉพาะ หลังจากที่นำเสนอการเรียกร้องแก่เหล่าผู้หลงผิด และหลอกลวง ทำให้กลายเป็นสื่อต่างๆ  และความสามารถ ที่ไม่มีผู้อื่นตระเตรียมมาก่อน


ในปี ค.2010 อีหม่ามหนุ่ม สรัฟ มูฮัมหมัด ริสซูวัน (IM Asyraf Mohamad Ridzuan) เป็นรุ่นแรกที่ได้รับการชนะเลิศ คะแนนใกล้เคียงกับผู้ที่เป็นรองชนะเลิศมาก สรัฟ มูฮัมหมัด ริสซูวัน ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ทางศาสนาไม่น้อยเลยทีเดียว การสนับสนุนทางครอบครัวและภรรยาเป็นการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่เป็นอับดับสอง นอกจากการขอพรวิงวอนต่อพระเจ้าแล้ว สิ่งนี้นับได้ว่าเป็นจุดยืนที่ทำให้เขามุ่งมั่นกับการเป็นผู้อย่างเต็มตัว และเป็นที่นับถือของประชาชนชาวปีนัง เนื่องจากเขาเป็นอีหม่ามหนุ่มที่ถูกคัดเลือกเป็นผู้ชนะของรุ่นแรก เขาได้ให้คำแนะนำแก่คนหนุ่มสาวคือการต่อต้านความเย้ายวนทางโลก และได้ชักชวนรุ่นต่อๆไปให้มีความกระตือรือร้น ในการเผยแพร่ศาสนา

ในปี ค.2011 อีหม่ามหนุ่ม มูฮัมหมัด ฮัสซัน อัดลี ยาฮายา (IM Mohd Hassan Adli Yahaya) เป็นรุ่นที่สองที่ได้รับการชนะเลิศ ซึ่ง มูฮัมหมัด ฮัสซัน อัดลี ยาฮายา กับ นัซรูล อิซวัน ซุลกิฟลี  (IM Nazrul Izwan- Zolkiflee) ทั้งสองมีคะแนนที่ไม่แตกต่างกันมาก แต่ด้วยความประสิทธิภาพที่สอดคล้องและบุคลิกภาพที่ถูกใจผู้ตัดสิน และมีกฏอยู่ในคุณสมบัติ เขาจึงกลายเป็นหนุ่มผู้ชนะ มูฮัมหมัด ฮัสซัน อัดลี ยาฮายา  จึงได้ถูกเลือกให้เป็น อีหม่าม ของรางวัลทุกอย่างจะได้สิทธิที่เท่าเทียมกัน เว้นแต่เงินรางวัล  ในส่วนของผลงาน นัซรูล อิซวัน ซุลกิฟลี กับ มูฮัมหมัด ฮัสซัน อัดลี ยาฮายา ค่อนข้างดังมากซึ่งได้มีละครที่เกี่ยวกับความรักที่  นัซรูล อิซวัน ซุลกิฟลี ได้แสดงรับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ละครเรื่องนี้มีชื่อว่า “Warkah Cinta” นอกจากนี้นัซรูล อิซวัน ซุลกิฟลี ได้ร่วมอัลบั้มของวง Unic และอีกมากมาย หลังจากที่ทั้งสองได้รับการตัดสินแล้ว ทั้งสองยังได้ร่วมกันทำงานอย่างเคร่งครัด ทั้งสองมีความคิดที่แตกต่างกัน ในแต่ละคนมีความแข็งแรงของตัวเองและความสามารถพิเศษที่จะให้ความรู้กับประชาชนได้หันมาปฏิบัติตามหลักที่ถูกต้อง  ทั้งสองได้รับการยกย่องของประชาชนและได้ความเคารพนับถือ

ในปี ค.2012 อีหม่ามหนุ่ม ญับบาร (Imam Muda Jabbar) ได้ขึ้นครองแชมป์เป็นรุ่นที่สาม เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีความสามารถสูงสุดในการคัดเลือกในครั้งนี้ เขาได้กระตือรือร้นมากกับการแข่งขันในครั้งนี้ เนื่องจากทางครอบครัวและภรรยาของเขาไม่สนับสนุนแต่ด้วยจิตใจของเขาที่อธิฐานภาวนาต่อพระเจ้าและได้มอบหมายการงานต่อพระเจ้า จึงทำให้ความสำเร็จของเขายืนได้จนเกิดความประสบความสำเร็จและทำให้ทุกคนในครอบครัวและประชาชนยอมรับในตัวเขา และมันเป็นเรื่องที่ทำให้เขาไม่คาดคิด แม้ว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นเวที  และแม้ว่าจะผ่านความท้าทายหลายครั้งก่อนและระหว่างการเข้าพักเข้าร่วมกิจกรรมของพวกเขาในโปรแกรมที่กำหนดไว้ เขาก็ได้มุ่งมั่นในการท่องจำพระธรรมเทศนา และกล่าวอย่างถูกต้อง

มาเลเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมประมาณ 60% จาก 28 ล้านคน กำลังถูกอิทธิพลของพวกเคร่งศาสนาครอบงำมากขึ้น มีการบุกตรวจค้นตามโรงแรมและไนต์คลับ จับคนทำผิดฐานดื่มเหล้าหรือมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากหญิงสาวมาเลเซียถูกเฆี่ยนฐานมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในมาเลเซีย รายการออสโตร โอเอซิส ในโครงการอีหม่ามหนุ่ม จึงเป็นที่พยายามจะดึงศาสนาให้กลับมาเปิดกว้างและเป็นสายกลางมากขึ้น  การก้าวสู่ความสำเร็จของแต่ละบุคคลจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่จะขึ้นอยู่กับความสามารถที่แต่ละบุคคลได้ปฏิบัติ การที่จะให้เยาวชนคนรุ่นหลังๆ มีความสามารถเขาต้องได้รับการอบรม และฝึกได้อย่างคล่องแคล่วรวมทั้งให้ความสำคัญเป็นพิเศษ   ในการจัดตั้งโครงการนี้เพื่อที่จะค้นหาผู้ที่มีความสามารถ และทำหน้าที่เป็นแบบอย่างแก่สังคมเพื่อที่จะจัดการกับปัญหาสังคมและศีลธรรม และเพื่อรวบรวมคนหนุ่มมาร่วมกิจกรรมทั้งทางศิลปะและสร้างแรงจูงใจ โดยหวังจะลบภาพลักษณ์เดิมๆ



IM สรัฟ มูฮัมหมัด ริสซูวัน 


IM มูฮัมหมัด ฮัสซัน อัดลี ยาฮายา 


Website :

http://fenomenasyid.blogspot.com/2010/05/senarai-peserta-imam-muda-2010.html
http://www.aljazeera.com/news/asia-pacific/2010/07/2010731503766963.html
http://www.demotix.com/news/399009/finals-imam-muda-challenge#media-398952
http://lanunsepet.blogspot.com/2010/07/juara-imam-muda-astro-muhammad-asyraf.html
http://ezany-kun.com/mohd-hassan-adli-yahaya-yahuza-di-tabal-juara-imam-muda-2/
http://www.budiey.com/imam-muda-jabbar-pemenang-juara-imam-muda-musim-ke-3/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น